THE 77TH GOLDEN GLOBE AWARDS 2020
ชัยชนะที่แท้จริงของรางวัลคือความสุขและความเท่าเทียมกันของมนุษยชาติ
**
รางวัล ลูกโลกทองคำ (The Golden Globe) มีบุคลิกและบรรยากาศที่แตกต่างจาก The Oscar แม้ว่าจะถูกนำมาเปรียบเทียบกันเสมอ ทั้งในแง่ของบรรทัดฐานการคัดเลือก และบรรยากาศของการจัดงาน
The Golden Globe (GG) ให้อารมณ์ของงานปาร์ตี้ ส่วน The Oscar นั้นมีความเคร่งขรึมจริงจัง ให้ความรู้สึกของการแข่งขันอันเข้มข้น
Elton John และ Bernie Taupin ซึ่งเป็น “สาระ” ของภาพยนตร์ชีวประวัติเรื่อง Rocket Man กล่าวว่า ไม่ว่าจะได้รางวัลหรือไม่ ก็ไม่สำคัญเพราะเรามาที่นี่เพื่อความสนุกสนาน ส่วน Pierce Brosnan กล่าวว่า เจตนาของงานนี้ ก็เพื่อที่จะบอกเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงว่า “เราชอบผลงานของคุณ”
การคัดเลือกภาพยนตร์ ของ GG นั้น เป็นหน้าที่ของสมาชิก Hollywood Foreign Press Association (HFPA) หรือสมาคมผู้สื่อข่าวฮอลลีวู้ด ซึ่งจะได้รับเชิญจากสตูดิโอเจ้าของภาพยนตร์ ให้มาร่วมพิจารณาหนังของตน เมื่อภาพยนตร์ได้ผ่านเข้ารอบ 5 รายชื่อสุดท้าย แล้ว จะมีการลงคะแนนโดยสมาชิก HFPA อีกครั้ง หากมีเรื่องใด ที่ได้คะแนนเท่ากัน จะย้อนไปดูคะแนนจากการคัดเลือกในรอบแรก งานหรือนักแสดงที่ได้คะแนนมากกว่าเป็นผู้ได้รับรางวัล สมาชิกของ HFPA มาจากสื่อมวลชนทุกสาขา ทั้งนักเขียน ผู้สื่อข่าว และช่างภาพ ที่ทำหน้าที่ในวงการบันเทิงและสื่อสารมวลชนของสหรัฐอเมริกา โดยเป็นผู้อยู่ในวิชาชีพนี้ จำนวนประมาณ 90 คน จาก 55 ประเทศ
ดังนั้นจึงเป็นการคัดเลือกผลงาน จากผู้มีความรู้และโลกทัศน์ของงานภาพยนตร์และโทรทัศน์ ในระดับมืออาชีพ ที่มีรสนิยมและบรรทัดฐานแตกต่างกันไป ในอดีต ว่ากันว่ากรรมการของ GG ได้รับอิทธิพลจาก Oscar แต่การประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัล และการจัดงานมอบรางวัลก่อน Oscar ทำให้ความคิดเรื่องอิทธิพลไม่มีน้ำหนัก อีกทั้งผลงานที่เข้ารอบและชนะรางวัลก็แตกต่างกัน
Ramy_Yopussef, RAMY, Photo: Armando Gallo
ในปีนี้ ก่อนวันจัดงานมอบรางวัล GG เกิดข้อพิพาทระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน จนเชื่อกว่าจะเกิดสงครามทางกายภาพ ในรูปแบบใดแบบหนึ่ง ดังนั้นผู้มาร่วมงาน ทั้งนักแสดง ผู้กำกับ ต่างถ่ายทอดความกังวงดังกล่าวเมื่อขึ้นเวที ส่วนผู้ดำเนินรายการ Ricky Gervais สะท้อนอารมณ์ เกี่ยวกับสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงก่อนเริ่มพิธีมอบรางวัลว่า “เรากำลังจะตายกันหมด”
Message in the Nominations
รายชื่อผลงานที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล ล้วนสะท้อนอารมณ์ของสังคมอเมริกันและสังคมโลก อย่างเห็นได้ชัด ทั้งในเรื่องของ การข่มเหงทางเพศ (sexual harassment) การเหยียดสีผิวและความหลากหลายทางเชื้อชาติ สันติภาพ สิทธิมนุษยชนและความเสมอภาค และความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติ
ภาพยนตร์เรื่อง The Farewell เป็นประเด็นร้อนเมื่อได้ผ่านรอบคัดเลือก โดยสังคมเห็นว่า น่าจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขา “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” มากกว่าที่จะเป็น “ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม” แต่โดยกฎเกณฑ์แล้ว ผลงานในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมนั้นต้องมีการใช้ภาษาอังกฤษในเนื้อหามากกว่า 50%

The Farewell เมื่อเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ สร้างกระแสได้แรงมาก ทำสถิติการชมภาพยนตร์ในโรงได้ในระดับของ Avengers: End Game ในปีก่อน เนื้อหาและอารมณ์ของภาพยนตร์ เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมครอบครัวของคนจีน อีกทั้งตัวละครที่แสดงนำโดย นักแสดงเชื่อสายเอเชียน-อเมริกัน Awkwafina ซึ่งมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ในฐานะศิลปินแร็พ และบทบาทจาก Crazy Rich Asians (2019) เป็นการนำเสนอ “เชื้อสายเอเชีย” ให้ชัดเจนขึ้นในสังคม แม้ว่าวงการบันเทิง ได้เคลื่อนไหวมานานกว่า 10 ปี ผ่านซีรีส์ที่สะท้อนความคิดและวัฒนธรรมเอเชีย เช่นซีรีส์ Fresh off the Boat หรือตัวละครชาวเอเชีย ที่มีบทบาทสำคัญ ทั้งในซีรีส์แนวสืบสวน เช่น FBI, Law & Order, The Good Doctor และอีกมากมาย เป็นการเพิ่ม “ความหลากหลายทางเชื้อชาติ” ให้กับ GG หลังจากที่มอบความสำเร็จใหักับมิติ ของเชื้อชาติผิวดำ ได้ในระดับที่สังคมพอใจ
ความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนา ยังรวมถึงรางวัลของ Ramy Youssef สาขานักแสดงยอดเยี่ยม จากซีรีส์ชุด Ramy เรื่องราวของครอบครัวอเมริกันมุสลิม ที่ต้องแสวงหาที่ยืนในสังคม ทั้งในแง่ของศรัทธาทางศาสนา และจุดยืนทางการเมือง ในเขตชุมชนของรัฐนิวเจอร์ซีย์ และความขัดแย้งระหว่างชุดความคิดแบบมุสลิมว่า “ชีวิตคือการทดสอบศีลธรรม” กับคนรุ่นใหม่ที่เห็นว่า “ชีวิตเป็นไปตามที่มันจะเป็น”
ในสาขา “เพลงที่แต่งขึ้นเพื่อภาพยนตร์โดยเฉพาะ” (Best Original Song) ก็สื่อถึงความเป็นไปในสังคม ผู้ชนะคือ “I’m Gonna Love Me Again” จาก Rocket Man มีกลิ่นอายของดนตรี Motown ยุค 60s อย่างชัดเจน มีสีสันของเพลง “Heatwave” และ “Dancing in the Street” ของ Martha & the Vandellas ทั้งจังหวะและทำนอง หวนถึงความสุขในอดีต ส่วนเนื้อร้องนั้นสะท้อนถึง การให้ความสำคัญกับตนเอง ไม่ปล่อยให้ใครย่ำยี หรือเอาเปรียบ กล้าเผชิญกับสถานการณ์ ซึ่งรวมถึงกระแส การกดขี่ทางเพศ ในการเคลื่อนไหว #metoo
กระแส #metoo อยู่ในรายชื่อผลงานชิงรางวัล GG ในภาพยนตร์ Bombshells ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการล่วงเกินทางเพศของผู้บริหาร Fox News และตลอดปีที่ผ่านมา ยังมีสารคดีเกี่ยวกับนักร้อง R.Kelly และ Leaving Neverland อันว่าด้วยเรื่องของไมเคิล แจ็คสัน
Sam Mendes ได้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก 1917 ภาพยนตร์เล่าเรื่องผ่านฉากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่นำเสนอผ่านกล้องแบบ one shot โดยนักแสดงไม่หลุดจากกล้องตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ ในความยาวเกือบ 2 ชั่วโมง เป็นการเล่าเรื่องด้วยการแสดง บทสนทนา และกล้อง ไปพร้อมกันอย่างแยบยลและน่าทึ่ง
ในการขึ้นรับรางวัล แซม เมนเดส กล่าวว่า “ไม่มีผู้กำกับคนใด ในงานคืนนี้ และไม่มีผุ้กำกับคนใดในโลกนี้ ที่ไม่ได้อยู่ในเงาของ มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese)”
เงาของของ สกอร์เซซี เด่นชัดใน JOKER ซึ่งได้เข้าชิงรางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม นักแสดงชายยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ทั้งการสร้างตัวละครที่มีปัญหาทางอารมณ์ เสื้อผ้า ฉาก และเนื้อหา ที่สามารถเชื่อมโยงไปยังภาพยนตร์เรื่อง Taxi Driver (1976) และ King of Comedy (1982) ได้ไม่ยากสำหรับนักดูหนังรุ่นใหญ่ อีกทั้งยังมี Robert DeNiro มาร่วมแสดงบทสำคัญด้วย
ส่วนรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมในภาพยนตร์แนวเพลงและบันเทิงนั้น Taron Egerton คว้ารางวัลไปครองด้วยบทของ Elton John หลังจากที่ Rami Malek ได้รับออสการ์ไปจากบทของ Freddie Mercury ใน Bohemian Rhapsody เมื่อปีก่อน ส่วน Renée Zellweger ได้รางวัลจาก Judy หนังชีวประวัติ Judy Garland
ตัวละครที่มีตัวตนจริง เช่นใน Rocket Man, Bohemian Rhapsody และ Judy เป็นเรื่องเล่า ที่มาจากเรื่องจริง (แม้จะดัดแปลงจากเรื่องจริง) สามารถสร้างความผูกพันกับผู้ชมได้มากกว่า และเรื่องราวยังเป็นบทเรียน และให้คติสอนใจ ได้อย่างหนักแน่นกว่า อีกทั้งฝีมือการแสดง ที่ต้องนำส่ง “ตัวตน” ตามบุคลิกจริง ย่อมสร้างความประทับใจได้ชัดเจน
ชัยชนะของ Parasite จากเกาหลีใต้ บ่งบอกชัดเจนว่า โลกบันเทิง เป็นของผู้คนทั้งโลก และพร้อมต้อนรับการสร้างสรรค์จากภูมิภาคเอเชียแล้วจากนี้เป็นต้นไป ผู้กำกับ Bong Joon Ho กล่าวในการรับรางวัลว่า “หากเราทำใจได้กับซับไตเติลที่บังภาพไป 1 นิ้วได้ เราจะได้พบกับความมหัศจรรย์หลายสิ่งหลายอย่าง”
Ellen Lee DeGeneres ซึ่งได้รับการเสนอชื่อสำหรับรางวัล GG จากบทบาทในซีรีส์ Ellen มาแล้วถึง 3 ครั้ง ได้รับรางวัลเกียรติยศ Carol Burnett Award ซึ่งเป็นการเห็นความสำคัญของการสร้างสรรค์ผลงานจาก LGBTQ ในวงการบันเทิง และในสังคมโดยรวม และยืนยันว่า Golden Globe ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของมนุษยชาติอย่างทั่วถ้วน
และจะสานต่อในการมอบรางวัลในปีต่อๆ ไปอย่างแน่นอน
