การจัดทำแคมเปญต่อสู้กับ Covid-19 ด้วยชื่อ “ไทยชนะ” ถูกตีความว่าเป็นลักษณะชาตินิยม ที่ไม่จำเป็น เป็นการมองอย่างหาเรื่อง เพราะคำว่า “ชนะ” “ผ่านพ้นไปด้วยกัน” “สู้ด้วยกัน” เป็นคำที่สร้างพลังร่วมกัน สร้างแรงบันดาลใจ ไม่ต่างจากวาทกรรม Make America Great Again หรือ Make America Number One ที่ทรัมพ์ใช้ในแคมเปญหาเสียงเมื่อ 4 ปีก่อน

การวิเคราะห์เรือง การรักชาติหรือ patriotism ควรเป็นการศึกษาให้เห็นประโยชน์หรือข้อเสีย ในการพัฒนาชาติและสังคม และทำให้เกิดความเข้าใจค่านิยมของพลเมืองเพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ก้าวล่วง ไม่ใช้ท่าทางหรือวาจาที่ถูกตีความว่าหยาบคาย โดยไม่มีเจตนา การพิจารณาพฤติกรรมชาตินิยม ไม่ใช่เพื่อนำไปสร้างบริบทว่า ชาตินิยมเป็นสิ่งไม่ดี

การสร้างชาติขึ้นมาได้ และอยู่มาจนปัจจุบัน ย่อมทำให้พลเมืองมีความภูมิใจ และเกิดสำนึกรักชาติอยู่ในตัว ผู้คนที่จากประเทศไปก่อร่างสร้างตัวต่างแดน ไม่ว่าประเทศไหน ก็ยังรักชาติ และนิยมอัตลักษณ์ของชาติ คนไทยในต่างประเทศ ก็อยากใส่เสื้อผ้าไทยให้เพื่อนต่างชาติได้เห็น อยากทำอาหารไทยเลี้ยงเพื่อนฝรั่งกันไม่เลิก ฝรั่งเชื้อสายอิตาเลียนในนิวยอร์ค ไม่มีปมเรื่องสำเนียงอิตาเลียนของตนเอง จะไปกินร้านอาหารอิตาเลียน อย่ามาขอ ketchup เด็ดขาด จะโดนซาลามิตบปาก

การนำคำว่า patriotism หรือ nationalism ที่แปลว่า ชาตินิยมหรือคลั่งชาติ นำมาใช้ในทางลบ เป็นทัศนะแบบโบราณ โดยเชื่อว่า ความรู้สึกชาตินิยมจะปฎิเสธชาติอื่นอย่างกร้าว ไม่ว่าจะเป็นลักษณะชาติพันธุ์ พฤติกรรม ภาษาและวัฒนธรรม แต่เมื่อโลกผ่าน globalization มาแล้ว การปฎิเสธชาติใดชาติหนึ่งแบบสร้างกำแพงล้อมตัว ไม่ใช่รูปแบบของความคิดอีกต่อไป ในทางตรงกันข้าม แต่ละชาติเมื่อถือว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกแล้ว ล้วนพยายามนำเสนออัตลักษณ์ของชาติให้ผุู้อื่นได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการเมือง สังคม และวัฒนธรรม รวมไปถึง soft power ต่างๆ เช่น อาหาร งานศิลปะ และการท่องเที่ยว

ในอดีตประเทศญี่ปุ่น เกาหลี และจีน มีภาพลักษณ์โดยรวมว่ามีความชาตินิยมสูง เพราะป้ายถนนหนทาง สถานที่ และร้านรวง ไม่มีภาษาอังกฤษกำกับ แต่ปัจจุบันประเทศเหล่านี้ต้อนรับผู้มาเยือนต่างชาติอย่างจริงจัง รับวัฒนธรรมของชาติอื่นเข้ามาในสังคม และชีวิตประจำวัน ส่วนประเทศใหม่ เช่นสิงคโปร์ ไต้หวัน หรือมาเลเซีย ต่างก็ภูมิใจที่สร้างชาติขึ้นมาได้ทัดเทียมกับประเทศในซีกโลกตะวันตก พลเมืองวางตัวอย่างมีศักดิ์ศรีไม่ยอมใคร ถือว่าชาตินิยมหรือไม่?

การรวมพลังเคลื่อนไหว เพื่อธำรงค์ไว้ซึ่งความถูกต้องตามกฎหมาย และจริยธรรม เป็นหน้าที่ของพลเมือง เป็นสำนึกของอารยชน ไม่ใช่ชาตินิยม ผู้คนที่ออกมาปกป้องสถาบัน ยืนหยัดให้รักษากฎหมาย ต่างก็กินปิซซา ซูชิ เฝอ เบอร์เกอร์ ชีส และบราทเวิร์สท ไม่ได้ปฎิเสธนักท่องเที่ยวต่างชาติ ฟังเพลงจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อังกฤษ และเวียดนาม ดูหนังฮอลลีวู้ด ชอบดูซีรีส์เน็ทฟลิกซ์ ไม่มีใครเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะชื่อ “ไทยชนะ”

ส่วนความชังชาติก็จับต้องไม่ได้ แต่ความเกลียดชังตนเอง เพราะชีวิตเป็นทุกข์ พ่ายแพ้ รุ้สึกว่าไม่มีตัวตน รู้สึกได้ มองเห็นได้ จากคำพูดและการกระทำ.

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here