การเคลื่อนไหวเรื่องยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เป็นสิ่งที่อนาถใจ การโต้แย้งว่าขอให้รับแต่ทหารที่สมัครใจ ซึ่งกองทัพไทยทำมานานแล้ว บ่งบอกสภาพจิตใจว่า ขอแค่กูไม่ต้องเป็นทหารเท่านั้น เพราะกูไม่ได้รับรู้วิธีการคัดเลือกอะไรเลย

ตอนเราเป็นเด็ก เราก็รับรู้แล้วว่าชายไทยต้องเข้าคัดเลือกการเกณฑ์ทหาร พูดง่ายๆ คือ ชายไทยต้องเป็นทหาร จะได้เป็นหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง

พอเข้าวัยรุ่นเราก็เตรียมพร้อม ในสิ่งที่เราต้องเป็น แม้ว่าบุคลิกและสภาพของเรา จะอวบอิ่ม แก้มใส แม้แต่ใฝยังสีชมพู ไม่ชอบการขู่ตะคอก พ่อดุ แม่อ่อนโยนมาก แต่เราไม่เคยคิดว่า ถ้าเข้ากองทัพเราคงทนไม่ได้ ตายแน่ๆ

พ่อมีลูกชาย 2 คน และพูดเสมอว่า “พ่อไม่ช่วยนะ” แม้ว่าพ่อจะอยู่ในแวดวงที่อาจจะช่วยได้ไม่ยาก พ่ออยู่ในสังคมของผู้มีตำแหน่ง และตีกอล์ฟกับนายทหารมายาวนาน ลูกชายทั้งสองคน ก็จัดการชีวิตตัวเอง โดยการเรียน รด.

เราเป็นเด็กอ้วน ขี้ร้อน ทนผ้าหนาๆ ของชุด รด. แทบไมได้ก็ต้องทน ลมพิษขึ้นเพราะระคายผิวก็ไม่บ่น ไม่โอดครวญ การฝึกใช้กำลังทุกอย่าง ทั้งวิ่งกลางแดด แบกปืน ปีนป่าย คลานกับพื้น เพื่อนๆ ที่ดูบึกบืน เป็นลมก็มี แต่อ้วนไม่เคยเป็นลม

การเป็นเด็กอ้วนก็เป็นเป้าสายตาของครูฝึก ครูฝึกก็ชอบเรียกไปแกล้ง พอฝึกเสร็จ ก็สั่งว่า “เดี๋ยวแวะมาหาครูด้วย ครูจะกินถั่วดำ” แล้วพวกครูฝึกก็หัวเราะกัน

พอฝึกเสร็จ เราก็ไปหาครูฝึกตามคำสั่ง แล้วทำใจดีสู้เสือ พูดกับครูฝึกว่า “ครูจะให้ผมไปซื้อถั่วดำที่ไหนครับ เย็นแล้วเขาคงไม่ขาย”

แล้วครูฝึกก็หัวเราะกัน แล้วครูคนหนึ่งก็พูดว่า “เฮ้ย อย่าไปแกล้งมัน มันไม่รู้จักถั่วดำ”

ตอนนั้นเราไม่รู้จริงๆ ว่า ถั่วดำแปลว่าอะไร

ตอนเรียน รด. ปี 3 มีตำราเล่มใหญ่มาก ขนาดกระดาษ A4 คงจะหนาประมาณ 200 หน้า ว่าด้วยเรื่องอาวุธ ปืนชนิดต่าง คำศัพท์ ความหมาย ไม่ค่อยมีใครใส่ใจเพราะคิดว่า “แค่เรียน รด.”

พอผลสอบออกมา ตกกันระนาว หลายคนต้องเรียน รด. ปี 3 ใหม่อีกครั้ง

ตอนฝึกภาคสนาม ต้องไปกางเต๊นท์นอนในป่า ฝึกในป่า อาบน้ำในลำคลอง ตี 4 ต้องตื่นมาพร้อมวิ่ง แต่สิ่งที่แย่ที่สุดสำหรับเรา คือส้วมไม่มีประตู เราจึงหนีไปปล่อยทุกข์ในป่า ซึ่งต้องระวังการเหยียบกับดักที่อันตรายที่สุด คือ กองขี้ของคนอื่น

ส่วนการแก้ผ้าอาบน้ำต่อหน้าคนอื่น จะอายแค่วันแรก บางคนเอามือกุมหัวใจไว้ตลอดเวลา แต่พอเอามือออกเราก็สงสัยว่าจะกุมไปทำไม มองไม่เห็นอะไรอยู่ดี

การฝึกก็มีทั้งคลานไปกับพื้นโคลน ฝึกกลางฝน คลานไปกับปืนบนพื้นที่มีลวดหนามขวางอยู่ ต้องนอนหงาย ใช้ปืนดันลวดหนามขึ้นแล้วลอดตัวผ่านไปให้ได้ เป็นสิบๆ แนว และการสะพายปืนแล้วโหนเชือก ข้ามไปอีกฝั่งของลำคลอง ตัวหนักแล้วปืนยังหนักเข้าไปอีก

ผลสอบออกมา อ้วนก็สอบผ่านทั้งข้อเขียนและภาคสนาม ได้คะแนนอันดับต้นๆ ด้วย

.

พอไปเรียนต่อ ได้รับหมายเรียกฝึกกำลังพลกองหนุน (สด. 8.) พ่อก็ไปแจ้งว่าเรียนอยู่ ต่างประเทศ พอกลับมาทำงานเมืองไทย ยังไม่ได้เป็นครู ก็ถูกเรียกอีกรอบ ไม่ได้ตกใจอะไรเพราะเข้าใจดีว่า เป็นทหารกองหนุน และจะถูกเรียกฝึกได้อีก จนกว่าจะอายุ 46 ปี

.

เวลาผ่านไปหลายสิบปี เพื่อนเก่าๆ ที่มาเจอกัน และคุยเรื่องเรียน รด. ฝึก รด. คุยกันอย่างสนุกสนานถึงประสพการณ์ การเป็น นักศึกษาวิชาทหาร การฝึกในป่า การโดนพายุลูกเห็บตกใส่เต๊นท์ จนเต๊นท์พังลงมาทับในขณะที่กำลังนอนหลับสนิท การนั่งฟังบรรยายกลางแดด และอื่นๆ อย่างฮา และไม่เชื่อว่า “อ้วนมันรอดมาได้ยังไง”

ส่วนเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เรียน รด. แต่จับใบดำใบแดง ก็เล่าอย่างเต็มปากเช่นกัน ถึง “ความลุ้นที่สุดในชีวิต”

แต่เพื่อนที่ ไม่ได้เรียน รด. และไม่ได้ผ่านการจับใบดำใบแดงอย่างตรงไปตรงมา ก็ไม่มีอะไรจะเล่า

.

พ่อแม่ ไม่ควรทะนุถนอมลูกชาย วิตกกังวลว่าลูกจะลำบากถ้าถูกเกณฑ์ทหาร หรือเรียน รด. ถ้าคิดว่าลูกอาจจะยังไม่มีความพร้อม ก็ต้องช่วยแนะนำให้ลูกชายเตรียมตัวที่จะเผชิญกับความรับผิดชอบในฐานะ พลเมืองชายไทย

ลูกศิษย์เกาหลีโครงการอินเตอร์ฯ ที่ มธ. เรียนถึง ปี 2 พอขึ้นปีสาม ก็หายตัวไป เพื่อนๆ แจ้งว่าต้องไปรับการฝึกและปฎิบัติงานในกองทัพ 2 ปี ขนาดมาเรียนเมืองไทย ก็ยังกลับไปทำหน้าที่พลเมืองตามที่เกิดมาเป็นผู้ชาย พอครบ 2 ปี กลับมาเรียนต่อกับรุ่นน้อง ก็มาทักว่า “อาจารย์จำผมได้ไหม”

.

ผู้ชายเกาหลีต้องเข้ารับการฝึกในกองทัพทุกคน ไม่มีทางเลือก เขาก็ทำได้ ทำไมผู้ชายไทยจะทำไม่ได้

*

เรื่องโดย: ว่าที่สิบโทแดน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here