Be a good loser, not a sore loser. – อย่าขี้แพ้ชวนตี
เรื่องที่บอกว่าพ่ายแพ้เพราะอ่อนด้อยเรื่องการสื่อสาร หรืออ่อนหัดโซเชียลมีเดีย หรือเพราะลงทุนซื้อสื่อไม่มากพอ จะสรุปกันตามใจเชื่ออย่างไรก็ได้ แต่การแก้สมการที่ ควรตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้
– ทำไมสุพรรณบุรี บุรีรัมย์ ชุมพร รวมไทยสร้างชาติยังกวาดได้ทุกเขต ประชาชนที่นี่ ไปรับข้อมูลจากไหน
– ทำไม พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ยังกวาดได้ทุกเขต
– ทำไม พรรคใหม่อย่าง เพื่อไทรวมพลัง ยังกวาดมาได้ 2 เขต ผู้คนสองเขตนี้ เลือกผู้แทนด้วยข้อมูลจากไหน
– การยกตัวอย่างภูเก็ต ว่าคนภูเก็ตส่วนใหญ่ไม่ได้เลือกก้าวไกล แต่พ่ายแพ้เพราะคะแนนเสียงแตก แบ่งไปหลายๆ พรรค – แล้วทำไม ชุมพร สุราษฯ จึงเสียงไม่แตก ไม่แบ่งไปหลายๆ พรรค
– การอ้างว่า ส.ส.ก้าวไกล ลงพื้นที่หนักมากตลอดเวลาที่ผ่านมา จริงหรือ? บางเขตอาจจะใช่ แล้วพรรคอื่น ไม่ได้ลงพื้นที่หนักเท่าก้าวไกล จริงหรือเปล่า? เห็นมากับตา หรือฟังมาหลายต่อ… ส่วน ส.ส. เดิมในพื้นที่ ที่ทำงานให้ผู้คนในเขตอย่างต่อเนื่อง ยังแพ้เลือกตั้ง เพราะอะไร ตอบได้ไหม?
– ประชาชนที่ลงคะแนนเสียง เป็นเหยื่อของการสื่อสารจริงหรือ? ผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ขาดข้อมูล ขาดวิจารณญาณกันทั้งประเทศ? หรือตั้งใจเลือกแบบนั้น เพราะคุณภาพของประชาชนเป็นแบบนั้น เป็นรสนิยมประชาชนอันแท้จริง
– ไม่ว่าพิธาจะจบฮาร์เวิร์ด หรือจบจากที่ไหน ก็ไม่ใช่ประเด็น และถ้าไม่เข้าใจเรื่อง “หลักสูตรร่วมระหว่างมหาวิทยาลัย” หรือ “วิทยาลัยเฉพาะทาง” ของฮาร์เวิร์ดแล้ว ยิ่งฉีกหน้าคนเย้ยมากกว่าฉีกหน้าพิธา
– เรื่องความเป็นเด็กเลี้ยงแกะก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่พิธา มีคุณสมบัติของดารา (star quality) และสร้าง fandom ได้ดีกว่าใครในสนามแข่งขันเลือกตั้งทั้งหมด ทั้งหน้าตา วัจนลีลา การเล่นลิ้นเล่นภาษา ความอินเตอร์ พื้นฐานครอบครัว การศึกษา ซึ่งสนองต่อรสนิยม ตรงกับพิมพ์นิยมของคนไทยจำนวนมากใช่หรือไม่?
– เรื่องตั้งพรรคร่วมรัฐบาลไม่สำเร็จ เพราะคดีหุ้นมรดกไอทีวี หรือมีอุปสรรคอื่นๆ เป็นลักษณะของความหวังริบหรี่ ที่ไม่ต้องการให้พิธา เป็นรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้แต่ไขว้นิ้ว กลั้นหายใจ เรื่องคดีความ การขาดคุณสมบัติของพิธา ต้องลุ้นทั้ง กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ
– เรื่องตั้งพรรคร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้สำเร็จ ก็เป็นเรื่องความหวังลมๆ แล้งๆ เช่นกัน ปัจจุบันนี้กับยุคสมัยนายกรัฐมนตรี ชื่อ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ นักการเมืองอาจจะสกปรกไม่ต่างกัน แต่ระดับของความสกปรกต่างกัน ศักดิ์ศรีต่างกัน ขนาดของก้อนเนื้อทีต้องแบ่งกันกินต่างกัน
– ยุคคุณชายคึกฤทธิ์ ไม่ได้มีคนรุ่นใหม่ ไร้ประสพการณ์ ได้ขึ้นวอแบบง่ายดาย ในยุคนั้น นักการเมืองไม่คิดเสนอนโยบาย ที่บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ ทำลายความมั่นใจของการลงทุน ทำลายสิงยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ยินดีที่จะให้ประเทศชาติ ตกอยู่ในอิทธิพลตะวันตกอย่างกระเหี้ยนกระหือ
– ปัจจุบันการได้เป็นรัฐบาล สำหรับคนชั่ว คือการได้กินบุฟเฟต์ไม่จำกัดเวลา นักการเมืองทำได้ทุกอย่าง โดยไม่ห่วงผลประโยชน์ของชาติ ไม่มีวันที่พรรคเสียงข้างน้อยจะทำอะไรได้ ไม่ต้องแอบฝัน
*
อย่ากระวนกระวาย ให้เป็นทุกข์ เมื่อผิดหวังกับผลเลือกตั้ง สาเหตุของความพ่ายแพ้มีปัจจัยทั้งหลายอย่าง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทักษะผู้เล่นและโค้ชเท่านั้น เมื่อแมทช์ที่คนอยากดูคือ ก่าวไกลและเพื่อไทย ก็ให้เขาลงสนามไป จะไปชมการแข่งขัน แล้วตะโกนเชียร์ทีมอื่นในสนามไม่เกิดประโยชน์
